วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

@@@ มองพุทธมณฑลปัตตานี @@@

@@@ มองพุทธมณฑลปัตตานี @@@



ไม่เห็นอนาคตพระพุทธศาสนาในประเทศไทย
กรณีพี่น้องมุสลิมคัดค้านการสร้างพุทธมณฑลปัตตานีจนทางราชการยอมถอย ต้องถือว่าเป็นการสูญเสียเอกราชทางวัฒนธรรมของประเทศไทย 
ผมเชื่อว่านี่จะเป็นก้าวแรกๆ ของการตั้งรัฐอิสระปัตตานี 
เพราะเมื่อพี่น้องมุสลิมห้ามอย่างหนึ่งได้ ต่อไปก็จะออกมาห้ามอย่างอื่นอีก
เป็นต้นว่า :

- ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ต่อไปจะต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น ถ้าเป็นชาวพุทธ ก็จะมีคนออกมาคัดค้านโดยอ้างว่าคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เอาชาวพุทธมาเป็นผู้ว่าฯ มุสลิมยอมรับไม่ได้ (แต่มุสลิมเป็นผู้ว่าฯ ได้ทุกจังหวัด!)

- ใครจะสร้างวัดในปัตตานี ต่อไปจะต้องขออนุญาตมุสลิมก่อน

- ส่วนวัดที่มีอยู่แล้ว ต่อไปก็จะมีคนออกมาคัดค้านว่า วัดพุทธมาอยู่ในจังหวัดที่มีมุสลิมเป็นส่วนมาก มุสลิมยอมรับไม่ได้ ต้องย้ายออกไป
ฯลฯ

ในอนาคต จะมิใช่เฉพาะจังหวัดปัตตานี แต่จะเป็นเช่นนี้ทั่วประเทศ ต่อไปชาวพุทธจะสร้างอะไร จะจัดกิจกรรมอะไรในแผ่นดินไทย จะต้องขออนุญาตมุสลิมก่อน

ถ้ามุสลิมบอกว่า "ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลาม" ก็สร้างไม่ได้ จัดไม่ได้ (แต่มุสลิมสร้างได้จัดได้ทั่วประเทศ!)

ใครฝ่ายไหนก็ตามที่ต้องการจะแยกดินแดน และกำลังทำสงครามแยกดินแดนอยู่ทางภาคใต้ในขณะนี้ จะกรุณาใจเย็นๆ ลองทบทวนยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีกันใหม่
แทนที่จะใช้การฆ่าพระฆ่าชาวพุทธเป็นหนทาง
เปลี่ยนมาใช้การรุกคืบทางศาสนาแทน น่าจะได้ผลดีกว่า
ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีทางศาสนานี้ ผลสำเร็จจะมิใช่ได้เฉพาะรัฐอิสระปัตตานี หรือสาธารณรัฐปัตตานีเท่านั้น
แต่จะได้เมืองไทยทั้งประเทศ
ทำแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินอิสลามได้เมื่อใด
ก็เท่ากับได้แผ่นดินไทยทั้งประเทศเมื่อนั้น
ไม่ต้องใช้กระสุนแม้แต่นัดเดียว!

----------
ผมไม่ได้พูดประชด แต่อนาคตจะต้องเป็นเช่นนี้
ท่านที่เห็นด้วยกับการคัดค้านไม่ให้สร้างพุทธมณฑลปัตตานี อย่ารีบตายนะครับ กรุณาอยู่ให้ถึงวันที่อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติไทยก่อน
ถ้าอยู่จนถึงวันนั้นไม่ได้ สั่งลูกหลานไว้ให้รอดูก็ได้ครับ
ขอสวัสดีล่วงหน้าให้แก่ประเทศไทย

ป.ล.
ราชบุรีบ้านผมอิสลามกำลังแตกดอกออกช่อบานสะพรั่ง
อีกไม่นานคงเต็มจังหวัด
จังหวัดราชบุรีเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ที่เรียกกันว่า พระสี่มุมเมือง
เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า ที่นี่เป็นแผ่นดินพระพุทธศาสนา
ในประเทศไทยมี ๔ องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปประดิษฐานประจำภาคทั้ง ๔
ภาคเหนือประดิษฐานที่จังหวัดลำปาง
ภาคตะวันออกประดิษฐานที่จังหวัดสระบุรี
ภาคตะวันตกประดิษฐานที่จังหวัดราชบุรี
ภาคใต้ประดิษฐานที่จังหวัดพัทลุง
จังหวัดเหล่านี้ ต่อไปเมื่อประชากรมุสลิมมีมากขึ้น พระประจำเมืองก็คงจะต้องย้ายออกไปไว้ที่ประเทศอื่น เพราะอยู่ตรงนี้ "มุสลิมยอมรับไม่ได้"
ผมยังหนักใจว่า-จังหวัดนครปฐม ถ้าต่อไปประชากรมุสลิมมากขึ้น จะย้ายพระปฐมเจดีย์ไปไว้ที่ไหนกัน
จะโดนระเบิดทิ้งแบบพระพุทธรูปที่บามิยัน (Bamiyan) ในอัฟกานิสถาน
หรือจะเก็บไว้เป็นซากโบราณสถานแบบบุโรพุทโธ (Borobudor) ในเกาะชวา
เตรียมคิดกันไว้ให้ดีนะครับ
----------

ไม่ได้พูดประชด แต่อนาคตจะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน
และไม่ได้พูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก
เพราะคนไทยไม่เคยก่อความแตกแยกกับศาสนาไหนๆ ที่มาเผยแพร่และที่มีอยู่ในประเทศไทย มีแต่ศาสนาไหนๆ เท่านั้นที่มาก่อเหตุแตกแยกกับเรา เช่น
ในพิธีประดับยศ ทหารไทยเคยตั้งพระพุทธรูป ก็สั่งไม่ให้ตั้ง
พระพุทธรูปประจำหน่วยราชการเคยอยู่ตรงนั้น ก็สั่งให้เอาไปไว้ที่อื่น
เวลานี้บอกไม่ให้สร้างพระพุทธรูปที่ตรงนั้น
มุสลิมดีๆ ทั้งนั้นแหละครับที่ออกมาทำเรื่องแบบนี้
ที่ต้องพูดดักเอาไว้ก่อนก็เพราะว่า เวลาใครเอาเรื่องมุสลิมทำอย่างนั้นอย่างนี้กับพระพุทธศาสนาขึ้นมาพูด ก็จะต้องมีท่านจำพวกหนึ่งลุกขึ้นมาบอกว่า-
เป็นแผนให้เราแตกความสามัคคี มุสลิมที่เขาดีๆ ก็มีเยอะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

เพราะฉะนั้น ใครเอาเรื่องแบบนี้ขึ้นมาพูดก็จะถูกตั้งข้อหาว่า-สร้างความแตกแยก
ผมเคยวาดภาพให้เห็น-เหมือนคนถูกเหยียบเท้า
ถ้าร้องขึ้น จะถูกตวาดทันทีว่าเอะอะโวยวายไม่เข้าเรื่อง
แต่ไอ้คนที่มันกำลังเหยียบเท้าเขาอยู่นั่น ไม่มีใครแตะเลย
เพราะถูกสะกดด้วยคาถา-มุสลิมดีๆ ก็มีเยอะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี อย่าตกเป็นเหยื่อของการสร้างความแตกแยก
แปลเป็นไทยว่า-คุณต้องยอมให้ผมเหยียบเท้าซะดีๆ และโดยสงบ อย่าโวย เพราะการโวยเป็นการสร้างความแตกแยก ลองสังเกตดูเถอะ เป็นอย่างนี้ทุกที
สวัสดีประเทศไทยอีกที!

และ ป.ล. อีกที
ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้เพื่อจะให้ใครเกลียดชังพี่น้องมุสลิมนะครับ
ขอให้เราปรองดองสมานฉันท์กันไว้ให้มั่นคง – เพราะพี่น้องมุสลิมเป็นคนดี ไม่เคยทำอะไรให้ชาวพุทธเราต้องเจ็บช้ำน้ำใจ และไม่เคยคิดที่จะเบียนเบียนรุกรานพระพุทธศาสนา
อย่าโกรธและอย่าเกลียดกัน ไม่ว่าใครจะทำอะไรเรา
หรือใครที่มีหน้าที่ควรทำอะไร แต่กลับไม่ทำอะไร-ก็ตาม
และผมก็ไม่ได้ขอให้ใครไปทำอะไรใครด้วย
ขออย่างเดียวเท่านั้น คือขอให้ช่วยกันรู้ทันเอาไว้ให้มากๆ
เหมือนเจ้าของบ้านรู้ทันขโมยที่มักจะเข้าบ้านเมื่อเจ้าบ้านเผลอ
โดยหวังว่า เมื่อขโมยรู้ว่าเจ้าของบ้านรู้ทัน ก็จะไม่เข้ามาขโมยของ
เรียกว่า-ให้เกียรติขโมย-ว่างั้นเถอะ
แต่ถ้าขโมยยังหน้าด้านเข้ามาขโมยทั้งๆ ที่รู้ว่าเจ้าของบ้านเขารู้ตัวแล้ว
ถึงตอนนั้นเจ้าของบ้านก็ควรจะรู้ตัวว่าควรจะต้องลุกขึ้นมาทำอะไรและทำอย่างไร
แต่ถ้าถึงตอนนั้นเจ้าของบ้านยังไม่คิดจะทำอะไร-แบบที่ไม่ได้มีความคิดจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้
ทีนี้ก็จะเห็นอนาคตของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยชัดแจ๋วแหววละขอรับ

<< นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น