วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความจริง

ทุกวันนี้ เพราะการเสพข้อมูลอย่างไร้สติ
ไม่ค้นหาความจริง ไม่รู้หลักเกณฑ์
และขั้นตอนการวินิจฉัยเรื่องราวต่างๆ
อย่างถูกต้องตามตามกฎหมาย ตามธรรมวินัยสงฆ์
และตามธรรมเนียมปฏิบัติ
ประชาชนจึงตกเป็นเครื่องมือทำลายพระพุทธศาสนา
ของคนบางกลุ่มได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว

ยิ่งกว่านั้น การตกเป็นเครื่องมือแต่ละครั้ง
ยังกลายเป็นการช่วยกันสร้างบรรทัดฐานผิดๆ ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ขึ้นมาล้มล้างพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

เพราะพวกที่กล่าวร้าย รู้ว่าประชาชนมีจุดอ่อนอยู่ 5 เรื่อง คือ

1. ไม่รู้ขั้นตอนด้านกฎหมาย ใครอ้างกฎหมายก็เชื่อหมด
ทั้งที่จริงวิธีตัดสินคดีของฝ่ายกฎหมายก็ใช้วิธีตัดสินตามรูปแบบ
คำพิพากษาที่เคยตัดสินไว้ก่อนหน้า หรือที่เคยมีมาแต่อดีต
ซึ่งถือเป็นการตัดสินที่หยาบมาก เพราะมองแต่ด้านพยาน
และหลักฐานที่มีผลทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว
ส่วนผลกระทบอื่นๆ ที่ไม่มีผลทางด้านกฎหมาย
ไม่นำมาร่วมพิจารณาด้วย ทำให้เกิดช่องโหว่ให้คนกล่าวร้ายได้

2. ไม่รู้ขั้นตอนด้านธรรมวินัย ใครอ้างพระลิขิตก็เชื่อหมด
ทั้งที่จริงแล้ว การออกพระลิขิตเพื่อโจทก์อาบัติปาราชิก
ข้ามนิกาย ข้ามวัด ข้ามสังฆกรรม เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้
ถือว่าผิดทั้งด้านกฎหมาย ด้านธรรมวินัย และด้านธรรมเนียมปฏิบัติ
และยังเป็นการออกพระลิขิตในขณะที่คดีสงฆ์ยังอยู่บนศาลสงฆ์ชั้นต้นอีกด้วย
ถือว่าแสดงความคิดเห็นส่วนตัวอย่างผิดขั้นตอน
ดังนั้น เมื่อคุณสมบัติของผู้โจทก์ไม่ถูกต้อง
การใช้อำนาจผิดขั้นตอนเช่นนี้ แล้วจะมีผลทางกฎหมายได้อย่างไร
จะทราบว่าเนื้อความที่กล่าวโจทก์เป็นความจริงได้อย่างไร
ในเมื่ออยู่กันคนละวัด คนละนิกาย

3. ไม่รู้ผลกระทบว่าการตัดสินคดีสงฆ์แต่ละครั้ง
นั่นคือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่ส่งผลกระทบ
ต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
เช่น ถ้ากฎหมายตัดสินว่า การบริจาคเงินทำบุญให้กับวัดคือการฟอกเงิน
ก็เท่ากับว่า ใครมาบริจาคเงินสร้างศาลาสร้างกุฏิให้วัดทีละมากๆ
วัดๆ นั้นก็มีโอกาสจะถูกดำเนินคดีกฎหมายฟอกเงินได้ทันทีเช่นกัน
นี่คือการใช้อำนาจกฎหมายสร้างบรรทัดฐานขึ้นมา
ทำลายประเพณีการสั่งสมบุญของชาวพุทธ
ทำลายการทำนุบำรุงวัดวาอารามในพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว

4. ไม่รู้หลักธรรมแม่บทในพระพุทธศาสนา
ใครอ้างว่าวัดพระธรรมกายสอนผิดก็เชื่อหมด
ทั้งที่จริง พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า
ผู้ที่จะหลุดพ้นจากวัฏสงสารไปได้ ต้องบำเพ็ญบารมี 10 ทัศ
และบารมีที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ทานบารมี
ยิ่งสั่งสมทานบารมีมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีเสบียงติดตัวข้ามภพข้ามชาติไป
ทำให้การทำความดีในภพชาติต่อๆ ไปสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เพราะไม่ต้องมาห่วงกังวลเรื่องปากเรื่องท้อง
จึงมีเวลาที่จะทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาได้มากขึ้น
กว่าการเกิดมาเป็นคนลำบากยากจน

5. ไม่รู้สถานการณ์เป็นตายของพระพุทธศาสนาว่าอ่อนล้าเต็มที
วัดแต่ละวัดต้องดิ้นรนหางบประมาณเลี้ยงตัวเอง
และที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ 323 วัด ที่อยู่ 4 จังหวัดชายแดนใต้
ซึ่งไม่มีงบประมาณลงไปช่วยเหลือ และยังถูกปองร้ายรายวัน
ชาวพุทธในพื้นที่ถ้าไม่ถูกบีบให้เปลี่ยนศาสนา
ก็จำเป็นต้องย้ายหนี อพยพไปอยู่ที่อื่น

ตลอดสิบกว่าปีมานี้ ญาติโยมของวัดพระธรรมกาย
ได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภค
เพื่อส่งไปช่วยเหลือพระภิกษุและครูในพื้นที่เสี่ยงภัย
คิดเป็นงบประมาณไม่ต่ำกว่า 700-800 ล้าน
ที่ทุ่มเทลงไปให้กับผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้
ท่ามกลางเสียงกร่นด่าค่อนขอดของคนไม่เข้าใจว่า
เป็นพวกบ้าบุญ โดยไม่ได้พิจารณาความจริงว่า
เงินและสิ่งของที่ญาติโยมวัดบริจาคมานั้น
ไม่ได้มากองอยู่ที่วัดพระธรรมกาย
แต่ส่งไปหล่อเลี้ยงวัดในภาคใต้ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้ยังอยู่
บนด้ามขวานทองของไทยมากว่าสิบปีแล้ว
ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมวัดนี้ถึงขยันทำบุญ
ที่ขยันทำบุญ ก็เพราะต้องการค้ำยันพระพุทธศาสนา
ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ความเป็นตายครั้งนี้ไปให้ได้
เพราะไม่ต้องการเห็นพระพุทธศาสนาดับสูญไป
ในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่

พวกที่กล่าวร้ายรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่มีจุดอ่อน 5 เรื่องนี้
จึงใช้ความไม่รู้ 5 เรื่องนี้ ปลุกปั่นสร้างสถานการณ์โจมตีได้ง่าย
ทำให้เวลาเราแก้ข้อกล่าวหาแต่ละครั้ง
ทั้งที่เขาเข้าใจผิดเราแค่เรื่องเดียว
แต่เราต้องมานั่งอธิบายใหม่หมดถึง 5 เรื่อง

ฟังแล้วจะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจก็ไม่รู้ล่ะ
แต่ยังไงก็ต้องอธิบาย อย่างน้อยก็เพื่อต้องการเตือนสติว่า
จะด่าใครตามน้ำแต่ละที ควรจะหาความจริงกันบ้าง
ไม่ใช่ด่าเอามันผสมโรงเอาความสะใจเพียงอย่างเดียว
เดี๋ยวจะกลายเป็นเครื่องมือของผู้อ้างกฎหมาย
เพื่อทำลายพระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว

-----------------------------------------------------------------

๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

๒๓.๕๑ น.

ปล. บันทึกแรกของปี ก็ไม่ได้อยู่สงบๆ เสียแล้ว

Cr. Ptreetep Chinungkuro

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก

ถึงเพื่อนๆ ที่รักทุกๆ คน

 เนื่องด้วยเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักทั้งวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. คือวันแห่งความรักสากล และวันมาฆบูชา 22 ก.พ. คือวันแห่งความรักในพระพุทธศาสนา เดือนนี้จึงเป็นเดือนแห่งความรัก 

เราจึงอยากชวนเพื่อนๆทุกๆคน มาเปลี่ยนภาพ Profile ใน Facebook ของตัวเองเป็นภาพ "เรารักพระพุทธศาสนา" เพื่อแสดงพลังของชาวพุทธในเดือนแห่งความรักนี้กันทุกๆ ท่าน 

กิจกรรมดีๆ "เรารักพระพุทธศาสนา" เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งมาฆบูชา 
1.ให้เปลี่ยน ภาพประจำตัว (โปรไฟล์) ใน FB เป็นภาพนี้ 
2.ทุกโพสต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ให้มีเครื่องหมายและคำว่า (# hashtag) ว่า #เดือนแห่งความรัก #เรารักพระพุทธศาสนา



วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หลวงพ่อไม่ได้หนีไปต่างประเทศ

ตามที่อิสระเขียนจดหมายกล่าวว่า หลวงพ่อจะหนีไปต่างประเทศ นั่นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อสักครู่หลวงพ่อยังออกอากาศสดทาง DMC อยู่เลย


พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช

พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชดังกล่าว ไม่ใช่พระบัญชาจึงไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย ซึ่งที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติที่ ๑๙๓/๒๕๔๒ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๒ “สนองพระดำริมาโดยตลอด ให้ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม” มหาเถรสมาคมจะสนองได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระธรรมวินัยเท่านั้น
1.พระลิขิต ไม่ใช่ พระบัญชา ไม่มีผลตามกฎหมาย 
2.ได้ “สนองพระดำริมาโดยตลอดให้ชอบด้วย กฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม”
3.การกระทำทุกอย่าง ต้อง ! ไม่ขัดหรือแย้งกับ 
"พระธรรมวินัย" ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ
4.อธิกรณ์ หรือ ข้อกล่าวหา ที่ยุติแล้วรื้อฟื้นไม่ได้ !
ดังนั้นเรื่องพระลิขิตนี้จบแล้ว ขอ DSI อย่าได้นำมาเป็นประเด็นในการสร้างความแตกแยกเลย


@@@ มองพุทธมณฑลปัตตานี @@@

@@@ มองพุทธมณฑลปัตตานี @@@



ไม่เห็นอนาคตพระพุทธศาสนาในประเทศไทย
กรณีพี่น้องมุสลิมคัดค้านการสร้างพุทธมณฑลปัตตานีจนทางราชการยอมถอย ต้องถือว่าเป็นการสูญเสียเอกราชทางวัฒนธรรมของประเทศไทย 
ผมเชื่อว่านี่จะเป็นก้าวแรกๆ ของการตั้งรัฐอิสระปัตตานี 
เพราะเมื่อพี่น้องมุสลิมห้ามอย่างหนึ่งได้ ต่อไปก็จะออกมาห้ามอย่างอื่นอีก
เป็นต้นว่า :

- ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ต่อไปจะต้องเป็นมุสลิมเท่านั้น ถ้าเป็นชาวพุทธ ก็จะมีคนออกมาคัดค้านโดยอ้างว่าคนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เอาชาวพุทธมาเป็นผู้ว่าฯ มุสลิมยอมรับไม่ได้ (แต่มุสลิมเป็นผู้ว่าฯ ได้ทุกจังหวัด!)

- ใครจะสร้างวัดในปัตตานี ต่อไปจะต้องขออนุญาตมุสลิมก่อน

- ส่วนวัดที่มีอยู่แล้ว ต่อไปก็จะมีคนออกมาคัดค้านว่า วัดพุทธมาอยู่ในจังหวัดที่มีมุสลิมเป็นส่วนมาก มุสลิมยอมรับไม่ได้ ต้องย้ายออกไป
ฯลฯ

ในอนาคต จะมิใช่เฉพาะจังหวัดปัตตานี แต่จะเป็นเช่นนี้ทั่วประเทศ ต่อไปชาวพุทธจะสร้างอะไร จะจัดกิจกรรมอะไรในแผ่นดินไทย จะต้องขออนุญาตมุสลิมก่อน

ถ้ามุสลิมบอกว่า "ขัดต่อหลักคำสอนของอิสลาม" ก็สร้างไม่ได้ จัดไม่ได้ (แต่มุสลิมสร้างได้จัดได้ทั่วประเทศ!)

ใครฝ่ายไหนก็ตามที่ต้องการจะแยกดินแดน และกำลังทำสงครามแยกดินแดนอยู่ทางภาคใต้ในขณะนี้ จะกรุณาใจเย็นๆ ลองทบทวนยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีกันใหม่
แทนที่จะใช้การฆ่าพระฆ่าชาวพุทธเป็นหนทาง
เปลี่ยนมาใช้การรุกคืบทางศาสนาแทน น่าจะได้ผลดีกว่า
ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีทางศาสนานี้ ผลสำเร็จจะมิใช่ได้เฉพาะรัฐอิสระปัตตานี หรือสาธารณรัฐปัตตานีเท่านั้น
แต่จะได้เมืองไทยทั้งประเทศ
ทำแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินอิสลามได้เมื่อใด
ก็เท่ากับได้แผ่นดินไทยทั้งประเทศเมื่อนั้น
ไม่ต้องใช้กระสุนแม้แต่นัดเดียว!

----------
ผมไม่ได้พูดประชด แต่อนาคตจะต้องเป็นเช่นนี้
ท่านที่เห็นด้วยกับการคัดค้านไม่ให้สร้างพุทธมณฑลปัตตานี อย่ารีบตายนะครับ กรุณาอยู่ให้ถึงวันที่อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติไทยก่อน
ถ้าอยู่จนถึงวันนั้นไม่ได้ สั่งลูกหลานไว้ให้รอดูก็ได้ครับ
ขอสวัสดีล่วงหน้าให้แก่ประเทศไทย

ป.ล.
ราชบุรีบ้านผมอิสลามกำลังแตกดอกออกช่อบานสะพรั่ง
อีกไม่นานคงเต็มจังหวัด
จังหวัดราชบุรีเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ที่เรียกกันว่า พระสี่มุมเมือง
เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า ที่นี่เป็นแผ่นดินพระพุทธศาสนา
ในประเทศไทยมี ๔ องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปประดิษฐานประจำภาคทั้ง ๔
ภาคเหนือประดิษฐานที่จังหวัดลำปาง
ภาคตะวันออกประดิษฐานที่จังหวัดสระบุรี
ภาคตะวันตกประดิษฐานที่จังหวัดราชบุรี
ภาคใต้ประดิษฐานที่จังหวัดพัทลุง
จังหวัดเหล่านี้ ต่อไปเมื่อประชากรมุสลิมมีมากขึ้น พระประจำเมืองก็คงจะต้องย้ายออกไปไว้ที่ประเทศอื่น เพราะอยู่ตรงนี้ "มุสลิมยอมรับไม่ได้"
ผมยังหนักใจว่า-จังหวัดนครปฐม ถ้าต่อไปประชากรมุสลิมมากขึ้น จะย้ายพระปฐมเจดีย์ไปไว้ที่ไหนกัน
จะโดนระเบิดทิ้งแบบพระพุทธรูปที่บามิยัน (Bamiyan) ในอัฟกานิสถาน
หรือจะเก็บไว้เป็นซากโบราณสถานแบบบุโรพุทโธ (Borobudor) ในเกาะชวา
เตรียมคิดกันไว้ให้ดีนะครับ
----------

ไม่ได้พูดประชด แต่อนาคตจะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน
และไม่ได้พูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก
เพราะคนไทยไม่เคยก่อความแตกแยกกับศาสนาไหนๆ ที่มาเผยแพร่และที่มีอยู่ในประเทศไทย มีแต่ศาสนาไหนๆ เท่านั้นที่มาก่อเหตุแตกแยกกับเรา เช่น
ในพิธีประดับยศ ทหารไทยเคยตั้งพระพุทธรูป ก็สั่งไม่ให้ตั้ง
พระพุทธรูปประจำหน่วยราชการเคยอยู่ตรงนั้น ก็สั่งให้เอาไปไว้ที่อื่น
เวลานี้บอกไม่ให้สร้างพระพุทธรูปที่ตรงนั้น
มุสลิมดีๆ ทั้งนั้นแหละครับที่ออกมาทำเรื่องแบบนี้
ที่ต้องพูดดักเอาไว้ก่อนก็เพราะว่า เวลาใครเอาเรื่องมุสลิมทำอย่างนั้นอย่างนี้กับพระพุทธศาสนาขึ้นมาพูด ก็จะต้องมีท่านจำพวกหนึ่งลุกขึ้นมาบอกว่า-
เป็นแผนให้เราแตกความสามัคคี มุสลิมที่เขาดีๆ ก็มีเยอะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

เพราะฉะนั้น ใครเอาเรื่องแบบนี้ขึ้นมาพูดก็จะถูกตั้งข้อหาว่า-สร้างความแตกแยก
ผมเคยวาดภาพให้เห็น-เหมือนคนถูกเหยียบเท้า
ถ้าร้องขึ้น จะถูกตวาดทันทีว่าเอะอะโวยวายไม่เข้าเรื่อง
แต่ไอ้คนที่มันกำลังเหยียบเท้าเขาอยู่นั่น ไม่มีใครแตะเลย
เพราะถูกสะกดด้วยคาถา-มุสลิมดีๆ ก็มีเยอะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี อย่าตกเป็นเหยื่อของการสร้างความแตกแยก
แปลเป็นไทยว่า-คุณต้องยอมให้ผมเหยียบเท้าซะดีๆ และโดยสงบ อย่าโวย เพราะการโวยเป็นการสร้างความแตกแยก ลองสังเกตดูเถอะ เป็นอย่างนี้ทุกที
สวัสดีประเทศไทยอีกที!

และ ป.ล. อีกที
ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้เพื่อจะให้ใครเกลียดชังพี่น้องมุสลิมนะครับ
ขอให้เราปรองดองสมานฉันท์กันไว้ให้มั่นคง – เพราะพี่น้องมุสลิมเป็นคนดี ไม่เคยทำอะไรให้ชาวพุทธเราต้องเจ็บช้ำน้ำใจ และไม่เคยคิดที่จะเบียนเบียนรุกรานพระพุทธศาสนา
อย่าโกรธและอย่าเกลียดกัน ไม่ว่าใครจะทำอะไรเรา
หรือใครที่มีหน้าที่ควรทำอะไร แต่กลับไม่ทำอะไร-ก็ตาม
และผมก็ไม่ได้ขอให้ใครไปทำอะไรใครด้วย
ขออย่างเดียวเท่านั้น คือขอให้ช่วยกันรู้ทันเอาไว้ให้มากๆ
เหมือนเจ้าของบ้านรู้ทันขโมยที่มักจะเข้าบ้านเมื่อเจ้าบ้านเผลอ
โดยหวังว่า เมื่อขโมยรู้ว่าเจ้าของบ้านรู้ทัน ก็จะไม่เข้ามาขโมยของ
เรียกว่า-ให้เกียรติขโมย-ว่างั้นเถอะ
แต่ถ้าขโมยยังหน้าด้านเข้ามาขโมยทั้งๆ ที่รู้ว่าเจ้าของบ้านเขารู้ตัวแล้ว
ถึงตอนนั้นเจ้าของบ้านก็ควรจะรู้ตัวว่าควรจะต้องลุกขึ้นมาทำอะไรและทำอย่างไร
แต่ถ้าถึงตอนนั้นเจ้าของบ้านยังไม่คิดจะทำอะไร-แบบที่ไม่ได้มีความคิดจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้
ทีนี้ก็จะเห็นอนาคตของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยชัดแจ๋วแหววละขอรับ

<< นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย >>

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

Publish Android PhoneGap application

After I have finished developing my application. I'd to publish application to APK file for sending to GooglePlay. Now here my development, I use Macbook Air  OSX 10.9.5 , Netbean IDE coding  on  HTML5, AngularJS, OnsenUI, JavaScript, test application Ripple Emulator.

You should have  PhoneGap directory like : config.xml  hooks platforms plugins www. You have to

=> 1. Build Application by PhoneGap
=> 2. Point Android SDK path
=> 3. Create KeyStore file
=> 4. Sign App with Keystore
=> 5. Final APK file with Zip Align

you will get APK file and this file can upload to google play.


Step 1 : open terminal Goto Phonegap Root Document that contains some folders like this


 config.xml  hooks platforms plugins www


Step2 : terminal  : 

phonegap build android
You will get android folder in platforms folder. Now you have to disable debug mode by goto finder and goto : platform -> android open file  AndroidManifest.xml with text editor and add 


ADD  android:debuggable="false" to 

<application android:debuggable="false"



step3 : back to Terminal again and change folder to cordova ant-build

cd platforms/android/ant-build

step4 : Point android SDK tool location folder , if you don't know where is it, please find its your way.

export ANDROID_HOME=/usr/local/Cellar/android-sdk/24.1.2

hit enter and

export PATH=$ANDROID_HOME/tools:$PATH

step5 : Create Keystore, you can change app name "samma.keystore" to your app's name and "samma" the alias name you can change to any you desire.

keytool -genkey -v -keystore samma.keystore -alias samma -keyalg RSA -keysize 2048 -validity 10000


and create password and answer question.

You will get the samma.keystore in present folder that is : samma/platforms/android/ant-build

The Keystore, you have to keep this file, don't lose it, in case you want to build new app version. If you upload APK to GooglePlay that sign with this key, you have to upload new version app that sign with the same key.


step6 : Up 1 level directory and goto samma/platforms/android/cordova/ for Compiling Codova by

cd ../cordova/

and RUN

cordova build android --release

Now you will get file : CordovaApp-release-unsigned.apk in /ant-build



step7 : Change folder to ant-build where the Keyfile and APK file are created 

cd ../ant-build

and Sign the appkey with Keystore file that just created by run

jarsigner -verbose -sigalg SHA1withRSA -digestalg SHA1 -keystore samma.keystore CordovaApp-release-unsigned.apk samma


Don't forget to change name of keystore file and samma alias_name

if done, You will get the same filename CordovaApp-release-unsigned.apk but this file is already signed. 


step8 : zip align with zipalign tool , samma_ok.apk is final file.

/usr/local/Cellar/android-sdk/24.1.2/build-tools/22.0.1/zipalign -f -v 4 CordovaApp-release-unsigned.apk samma_ok.apk




And now you can upload samma_ok.apk to Google Play

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม


กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม
เรียบเรียงโดย พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร

       “ดู ก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะส่องสว่างเหนือโลกหล้า ย่อมมีแสงเงินแสงทองจับขึ้นที่ขอบฟ้า เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันใด ก่อนที่กุศลธรรมทั้งหลายจะบังเกิดขึ้น ย่อมมีสัมมาทิฏฐิ เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันนั้น”
   
 
 
     พุทธพจน์จากพระสูตร ชื่อว่า “ปุพพังคสูตร” ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสกนิบาต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ ถึงจุดเริ่มต้นของกุศลธรรมความดีงามทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากสัมมาทิฏฐิ

ซึ่งสัมมาทิฏฐิมี 10 ประการได้แก่

      1.    การแบ่งปันสิ่งของให้แก่ผู้อื่น (ทานมีผล)

     2.    การสงเคราะห์ช่วยเหลือกันและกัน (ยัญที่บูชามีผล หมายความว่า การสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคมรอบตัวมีผลดีเป็นทางมาแห่งความดีทั้งตัวเราและผู้อื่น)

     3.    การยกย่องบูชาบุคคลที่มีคุณงามความดี (การเซ่นสรวงบูชามีผล คือ การส่งเสริมสนับสนุนให้คนถือธรรมเป็นใหญ่จะได้เกิดกำลังใจในการทำความดี)

    4.    กรรมดีกรรมชั่วที่ทำไปแล้วมีผล (ตามหลักกฎแห่งกรรมที่มีอยู่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว")

    5.    โลกนี้ (โลกนี้มีคุณประโยชน์ให้เราได้อาศัยใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับประกอบคุณงามความดีทั้งปวง)

      6.    โลกหน้า 
(คือ ชีวิตหลังความตายมี จิตของผู้นั้นยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปเพราะกิเลสยังครอบงำบังคับบัญชาอยู่ มีแต่สังขารร่างกายเท่านั้นที่เสื่อมทำลายไป)

     7.    สำนึกพระคุณของมารดา (ท่านให้โอกาสเราได้มาอาศัยเกิดในครรภ์ เลี้ยงดู เป็นต้นแบบทางร่างกายและจิตใจ)

     8.    สำนึกพระคุณบิดา

     9.     มีการถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ (คือ เกิดวันนั้นก็โตเต็มวัยวันนั้นไม่ต้องมีพัฒนาการทางร่างกายแบบมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานทั่วไป หมายถึง การถือกำเนิดในสวรรค์ เรียกว่า สุคติภูมิ การถือกำเนิดในอบาย ได้แก่ เปรต อสุรกาย สัตว์นรก เรียกว่า ทุคติภูมิ คือ สุคติภูมิ และ ทุคติภูมิมีจริงนั่นเอง)

     10.     สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ผู้รู้แจ้งเรื่องโลกนี้โลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตามมีอยู่ (คือ หนทางปฏิบัติสู่การบรรลุมรรคผลนิพพานมีอยู่)

       จากหลักสัมมาทิฏฐินี้จะเห็นได้ว่าพระพุทธองค์สอนให้มีความเห็นที่ถูกต้อง เพื่อจะเป็นจุดเริ่มต้นของกุศลธรรมทั้งหลาย นั่นคือ ทรงสอนเรื่องกฏแห่งกรรม การกระทำทั้งหลายมีผล ทำกรรมดี ได้ผลดี ทำกรรมชั่ว ได้ผลชั่ว  ให้เกิดความละอายเกรงกลัวต่อกรรมชั่ว (หิริ โอตตัปปะ) และตั้งใจสั่งสมบุญกุศลให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

      เพราะเมื่อทำกรรมใดไว้ตนย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ซึ่งกรรมนั้นมีผลทั้งในปัจจุบันชาติคือโลกนี้ มีผลไปถึงโลกหน้า คือ มีภพภูมิ สุคติภูมิ ทุคติภูมิ นรก เปรต อสูกาย ภูมิของสัตว์เดรัจฉานรองรับอยู่ และสัตว์เกิดแบบโอปปาติกะนั้นมีจริง นั่นคือ มีเทวดาชาวสวรรค์ มีสัตว์นรก มีเปรต เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวการเวียนว่ายตายเกิด และเรื่องผลของการกระทำเหล่านี้มีกล่าวไว้มากมายในพระไตรปิฏก

      ไม่เพียงเท่านั้นพระพุทธองค์ยังทรงสอนอีกว่า มีสมณะพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผู้ที่ก้าวล่วงพ้นจากกฏแห่งกรรม พ้นจากทุกข์ในวัฏฏะนี้ได้มีอยู่จริง และคำสอนที่จะหลุดพ้นได้นั้นมีอยู่ ซึ่งก็มีอยู่ในพระพุทธศาสนา  ของเรานี้เอง ดังนั้นมีสัมมาทิฏฐิจึงเป็นบ่อเกิดแห่งคุณงามความดีทั้งหลาย
 
สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร Where Is Steve Jobs

    จากเรื่องราวกรณีศึกษาของคุณสตีฟ จ็อบส์นั้น ทำให้หลายๆ ท่านได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องกฏแห่งกรรม ได้เห็นการกระทำของคุณสตีฟ จ็อบส์ และผลของการกระทำของเขา ดังสามารถสรุปเป็นตารางข้างล่างนี้
 
ประเภทของกิเลส / บุญ กรรมชั่ว/กรรมดี ผลของกรรม (วิบาก) 
ทาน ศีล ภาวนา
(หลายชาติที่ได้สั่งสมบุญ
และปัญญาบารมี)
 
- พบกัลยาณมิตรพบพระเถระ
- ฟังธรรม อุปัฏฐากพระเถระ
- สั่งสมบุญต่างๆ
- สั่งสมปัญญาบารมี
- ทำหน้าที่กัลยาณมิตร
- นั่งสมาธิ(Meditation)ได้แสงสว่างนอกตัว
- สร้างวัด ทำบุญแล้วอธิษฐานจิตกำกับ
- มีอัธยาศัย ขยันมุ่งมั่น
(สัมมาทิฏฐิหลายข้อ เช่น ทาน สงเคราะห์โลก บูชาผู้มีคุณ เป็นต้น) 
- ฉลาดมีความคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างนวัตกรรมระดับโลกได้
- ทานบารมีทำให้มีทรัพย์มาก ประสบความสำเร็จในธุรกิจ (ในชาติปัจุบัน)  
- โทสะ - โมหะ
(ชาติที่เกิดเป็นพ่อค้า)
- ทำร้ายหมอเถื่อนด้วยความโกรธจนตับแตก
- เอายาปลอมให้พี่ชายกิน จนเกือบถึงความตายด้วยความไม่รู้
-  เป็นมะเร็งตับอ่อน
-  เศษของวิบากกรรมยังแรงอยู่ จึงเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับอ่อน (ในชาติปัจุบัน)
ทาน
(ชาติที่เกิดเป็นพ่อค้า)
บริจาคตับให้พี่ชายมีผู้มีบริจาคตับให้ตอนที่เป็นมะเร็งตับอ่อน ทำให้มีอายุต่อมาได้อีก (ในชาติปัจุบัน)
 
http://www.na.mahidol.ac.th/LCProj/Thai-Folksy/Image/Oths/Religions/Budha/image003.gif 
 
     เมื่อดูจากการกระทำของคุณสตีฟ จ็อบส์ หากทำกรรมที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักสัมมาทิฏฐิ เช่น สัมมาทิฏฐิข้อ 7,8 คือบิดามารดามีคุณ ในชาติที่เกิดภัยธรรมชาติ คุณสตีฟ จ็อบส์ได้เกิดความโลภอยากให้ตัวเองนั้นได้พ้นจากความลำบาก บวกกับความหลงจึงได้ทิ้งบิดามารดาไป จนทำให้บิดามารดาเสียชีวิตเพราะไม่มีใครเลี้ยงดู ซึ่งเขาไม่ได้ทำหน้าที่ของลูกคือ เลี้ยงดูบิดามารดา จึงทำให้ได้รับผลทันตาเห็นในภพชาตินั้นเอง คือ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น  

       หรือในหลักสัมมาทิฏฐิข้อที่ 1 คือทานมีผล ผลของทานที่คุณสตีฟ จ็อบส์ได้สั่งสมไว้มากมาย ทั้งถวายภัตตาหารแด่พระเถระที่ได้ฌานสมาบัติ ชักชวนมหาชนให้มาทำบุญทำกุศล รวมทั้งบุญในภพชาติถัดๆ มาที่ได้สร้างวัด จึงทำให้เขาเป็นผู้มีโภคทรัพย์มาก เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 110 ของโลก
    หรือในภพชาติที่คุณสตีฟ จ็อบส์เกิดเป็นพ่อค้าถูกโทสะเข้าครอบงำจึงได้ไปพลั้งเผลอทำกรรมชั่ว ได้ไปทำร้ายหมอเถื่อนจนตับแตก ซึ่งเขาไม่ได้มีความเห็นเชื่อตรงตามหลักสัมมาทิฏฐิข้อที่ 4 คือ กรรมดีกรรมชั่วมีผล ทำให้เป็นวิบากกรรมติดตัวมา คือ ต้องมาเป็นมะเร็งตับอ่อนและเสียชีวิตโดยโรคมะเร็งนี้ในที่สุด

    จะเห็นได้ว่าสัมมาทิฏฐิสอนให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง สอนเรื่องกรรมดี กรรมชั่วมีผล ซึ่งก็คือสอนเรื่องกฏแห่งกรรมนั่นเอง

    หากเราปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐินี้แล้ว ก็จะทำให้เราทำแต่ความดี เกรงกลัวต่อบาปกรรม เพราะสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้นกุศลธรรมความดีทั้งปวง

สัมมาทิฏฐินี้เป็นธรรมข้อแรกของอริยมรรคมีองค์ 8 คือ

1.สัมมาทิฏฐิ คือ เห็นชอบ
2.สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ
3.สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ
4.สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม
5.สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน
6.สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม
7.สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลออย่างถูกต้อง
8.สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลส นิวรณ์อยู่เป็นปกติ
       ซึ่งอริยมรรคมีองค์ 8  นี้เอง เป็นแนวทางปฏิบัติไปสู่หนทางพระนิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา และเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกๆคน
 
     นั่นคือ ถ้าเราปฏิบัติถูกต้องโดยมีสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้นแล้ว ปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้นไปก็จะทำให้เราเดินตามทางอริยมรรค์ คือ เห็นถูก คิดถูก พูดถุก ทำถูก เลี้ยงชีพถูก ทำความเพียรถูก มีสติที่ถูก และมีสมาธิที่ถูกต้องตรงไปตามหนทางพระนิพพาน และทำให้เราได้บรรลุมรรผลนิพพานในที่สุด

สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร Where Is Steve Jobs

      เหมือนดั่งเรื่องราวของคุณสตีฟ จ็อบ ที่ได้เริ่มจากมีกัลยาณมิตร คือพระเถระ (ในชาติที่เกิดภัยธรรมชาติ) ได้สอนให้เข้าใจเรื่องสัมมาทิฏฐิ ให้เห็นถึงเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว ทำให้คุณสตีฟ จ็อบได้ มีควาคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต และชาติต่อๆมาก็ได้ สั่งสมบุญพูดถูกชักชวนคนทำความดี ทำถูกประกอบบุญกุศล ประกอบอาชีพสุจริต ได้พบพระมหาเถระผู้มีฌานสมาบัติ ได้ทำความเพียรถูก มีสติ มีสมาธิ จนมีผลการปฏิบัติได้ดวงสว่างนอกตัว เมื่อละโลกไปมีสุคติสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นที่ไป

      จากเรื่องราวของคุณสตีฟ จ็อบส์ จะเห็นได้ว่า ทุกอย่างของคุณสตีฟ จ็อบที่ประสบความสำเร็จได้ในทุกวันนี้ ก็ล้วนเป็นผลแห่งบุญซึ่งเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฏฐิทั้งสิ้น ส่วนเบื้องหลังของความทุกข์ ความล้มเหลว ความไม่สำเร็จ นั่นก็คือผลของบาปที่คุณสตีฟ จ็อบได้เคยผิดพลาดทำไป 

      ดังนั้นการที่วัดพระธรรมกายสอนเรื่องกฏแห่งกรรม ในกรณีศึกษาของคุณสตีฟ จ็อบส์นั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามตามหลักสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ  ทำให้เข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรม รักบุญ กลัวบาป และสั่งสมแต่ความดียิ่งๆ ขึ้นไป

      การที่ชาวพุทธทั้งหลาย รวมทั้งเพื่อนต่างศาสนาได้ศึกษาเรื่องราวกฏแห่งกรรมนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโลกอย่างมากมาย เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจว่า สิ่งที่ทำไปแล้วมีผล ทั้งทำดี และทำชั่ว ทำให้ชาวโลกเกิดความละอายต่อบาป สั่งสมแต่ความดี พลอยทำให้โลกนี้เกิดแต่สันติสุข และเมื่อชาวโลกได้ศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมมากยิ่งขึ้นแล้ว ก็มีโอกาสได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาควบคู่ไปด้วย ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องสืบไป