วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม


กรณีศึกษา สตีฟ จ็อบส์ ถูกต้องตามหลักสัมมาทิฏฐิและกฏแห่งกรรม
เรียบเรียงโดย พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร

       “ดู ก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะส่องสว่างเหนือโลกหล้า ย่อมมีแสงเงินแสงทองจับขึ้นที่ขอบฟ้า เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันใด ก่อนที่กุศลธรรมทั้งหลายจะบังเกิดขึ้น ย่อมมีสัมมาทิฏฐิ เป็นนิมิตเบื้องต้นให้เห็นก่อน ฉันนั้น”
   
 
 
     พุทธพจน์จากพระสูตร ชื่อว่า “ปุพพังคสูตร” ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสกนิบาต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ ถึงจุดเริ่มต้นของกุศลธรรมความดีงามทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากสัมมาทิฏฐิ

ซึ่งสัมมาทิฏฐิมี 10 ประการได้แก่

      1.    การแบ่งปันสิ่งของให้แก่ผู้อื่น (ทานมีผล)

     2.    การสงเคราะห์ช่วยเหลือกันและกัน (ยัญที่บูชามีผล หมายความว่า การสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคมรอบตัวมีผลดีเป็นทางมาแห่งความดีทั้งตัวเราและผู้อื่น)

     3.    การยกย่องบูชาบุคคลที่มีคุณงามความดี (การเซ่นสรวงบูชามีผล คือ การส่งเสริมสนับสนุนให้คนถือธรรมเป็นใหญ่จะได้เกิดกำลังใจในการทำความดี)

    4.    กรรมดีกรรมชั่วที่ทำไปแล้วมีผล (ตามหลักกฎแห่งกรรมที่มีอยู่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว")

    5.    โลกนี้ (โลกนี้มีคุณประโยชน์ให้เราได้อาศัยใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับประกอบคุณงามความดีทั้งปวง)

      6.    โลกหน้า 
(คือ ชีวิตหลังความตายมี จิตของผู้นั้นยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปเพราะกิเลสยังครอบงำบังคับบัญชาอยู่ มีแต่สังขารร่างกายเท่านั้นที่เสื่อมทำลายไป)

     7.    สำนึกพระคุณของมารดา (ท่านให้โอกาสเราได้มาอาศัยเกิดในครรภ์ เลี้ยงดู เป็นต้นแบบทางร่างกายและจิตใจ)

     8.    สำนึกพระคุณบิดา

     9.     มีการถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ (คือ เกิดวันนั้นก็โตเต็มวัยวันนั้นไม่ต้องมีพัฒนาการทางร่างกายแบบมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานทั่วไป หมายถึง การถือกำเนิดในสวรรค์ เรียกว่า สุคติภูมิ การถือกำเนิดในอบาย ได้แก่ เปรต อสุรกาย สัตว์นรก เรียกว่า ทุคติภูมิ คือ สุคติภูมิ และ ทุคติภูมิมีจริงนั่นเอง)

     10.     สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ผู้รู้แจ้งเรื่องโลกนี้โลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตามมีอยู่ (คือ หนทางปฏิบัติสู่การบรรลุมรรคผลนิพพานมีอยู่)

       จากหลักสัมมาทิฏฐินี้จะเห็นได้ว่าพระพุทธองค์สอนให้มีความเห็นที่ถูกต้อง เพื่อจะเป็นจุดเริ่มต้นของกุศลธรรมทั้งหลาย นั่นคือ ทรงสอนเรื่องกฏแห่งกรรม การกระทำทั้งหลายมีผล ทำกรรมดี ได้ผลดี ทำกรรมชั่ว ได้ผลชั่ว  ให้เกิดความละอายเกรงกลัวต่อกรรมชั่ว (หิริ โอตตัปปะ) และตั้งใจสั่งสมบุญกุศลให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

      เพราะเมื่อทำกรรมใดไว้ตนย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ซึ่งกรรมนั้นมีผลทั้งในปัจจุบันชาติคือโลกนี้ มีผลไปถึงโลกหน้า คือ มีภพภูมิ สุคติภูมิ ทุคติภูมิ นรก เปรต อสูกาย ภูมิของสัตว์เดรัจฉานรองรับอยู่ และสัตว์เกิดแบบโอปปาติกะนั้นมีจริง นั่นคือ มีเทวดาชาวสวรรค์ มีสัตว์นรก มีเปรต เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวการเวียนว่ายตายเกิด และเรื่องผลของการกระทำเหล่านี้มีกล่าวไว้มากมายในพระไตรปิฏก

      ไม่เพียงเท่านั้นพระพุทธองค์ยังทรงสอนอีกว่า มีสมณะพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผู้ที่ก้าวล่วงพ้นจากกฏแห่งกรรม พ้นจากทุกข์ในวัฏฏะนี้ได้มีอยู่จริง และคำสอนที่จะหลุดพ้นได้นั้นมีอยู่ ซึ่งก็มีอยู่ในพระพุทธศาสนา  ของเรานี้เอง ดังนั้นมีสัมมาทิฏฐิจึงเป็นบ่อเกิดแห่งคุณงามความดีทั้งหลาย
 
สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร Where Is Steve Jobs

    จากเรื่องราวกรณีศึกษาของคุณสตีฟ จ็อบส์นั้น ทำให้หลายๆ ท่านได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องกฏแห่งกรรม ได้เห็นการกระทำของคุณสตีฟ จ็อบส์ และผลของการกระทำของเขา ดังสามารถสรุปเป็นตารางข้างล่างนี้
 
ประเภทของกิเลส / บุญ กรรมชั่ว/กรรมดี ผลของกรรม (วิบาก) 
ทาน ศีล ภาวนา
(หลายชาติที่ได้สั่งสมบุญ
และปัญญาบารมี)
 
- พบกัลยาณมิตรพบพระเถระ
- ฟังธรรม อุปัฏฐากพระเถระ
- สั่งสมบุญต่างๆ
- สั่งสมปัญญาบารมี
- ทำหน้าที่กัลยาณมิตร
- นั่งสมาธิ(Meditation)ได้แสงสว่างนอกตัว
- สร้างวัด ทำบุญแล้วอธิษฐานจิตกำกับ
- มีอัธยาศัย ขยันมุ่งมั่น
(สัมมาทิฏฐิหลายข้อ เช่น ทาน สงเคราะห์โลก บูชาผู้มีคุณ เป็นต้น) 
- ฉลาดมีความคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างนวัตกรรมระดับโลกได้
- ทานบารมีทำให้มีทรัพย์มาก ประสบความสำเร็จในธุรกิจ (ในชาติปัจุบัน)  
- โทสะ - โมหะ
(ชาติที่เกิดเป็นพ่อค้า)
- ทำร้ายหมอเถื่อนด้วยความโกรธจนตับแตก
- เอายาปลอมให้พี่ชายกิน จนเกือบถึงความตายด้วยความไม่รู้
-  เป็นมะเร็งตับอ่อน
-  เศษของวิบากกรรมยังแรงอยู่ จึงเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับอ่อน (ในชาติปัจุบัน)
ทาน
(ชาติที่เกิดเป็นพ่อค้า)
บริจาคตับให้พี่ชายมีผู้มีบริจาคตับให้ตอนที่เป็นมะเร็งตับอ่อน ทำให้มีอายุต่อมาได้อีก (ในชาติปัจุบัน)
 
http://www.na.mahidol.ac.th/LCProj/Thai-Folksy/Image/Oths/Religions/Budha/image003.gif 
 
     เมื่อดูจากการกระทำของคุณสตีฟ จ็อบส์ หากทำกรรมที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักสัมมาทิฏฐิ เช่น สัมมาทิฏฐิข้อ 7,8 คือบิดามารดามีคุณ ในชาติที่เกิดภัยธรรมชาติ คุณสตีฟ จ็อบส์ได้เกิดความโลภอยากให้ตัวเองนั้นได้พ้นจากความลำบาก บวกกับความหลงจึงได้ทิ้งบิดามารดาไป จนทำให้บิดามารดาเสียชีวิตเพราะไม่มีใครเลี้ยงดู ซึ่งเขาไม่ได้ทำหน้าที่ของลูกคือ เลี้ยงดูบิดามารดา จึงทำให้ได้รับผลทันตาเห็นในภพชาตินั้นเอง คือ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น  

       หรือในหลักสัมมาทิฏฐิข้อที่ 1 คือทานมีผล ผลของทานที่คุณสตีฟ จ็อบส์ได้สั่งสมไว้มากมาย ทั้งถวายภัตตาหารแด่พระเถระที่ได้ฌานสมาบัติ ชักชวนมหาชนให้มาทำบุญทำกุศล รวมทั้งบุญในภพชาติถัดๆ มาที่ได้สร้างวัด จึงทำให้เขาเป็นผู้มีโภคทรัพย์มาก เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 110 ของโลก
    หรือในภพชาติที่คุณสตีฟ จ็อบส์เกิดเป็นพ่อค้าถูกโทสะเข้าครอบงำจึงได้ไปพลั้งเผลอทำกรรมชั่ว ได้ไปทำร้ายหมอเถื่อนจนตับแตก ซึ่งเขาไม่ได้มีความเห็นเชื่อตรงตามหลักสัมมาทิฏฐิข้อที่ 4 คือ กรรมดีกรรมชั่วมีผล ทำให้เป็นวิบากกรรมติดตัวมา คือ ต้องมาเป็นมะเร็งตับอ่อนและเสียชีวิตโดยโรคมะเร็งนี้ในที่สุด

    จะเห็นได้ว่าสัมมาทิฏฐิสอนให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง สอนเรื่องกรรมดี กรรมชั่วมีผล ซึ่งก็คือสอนเรื่องกฏแห่งกรรมนั่นเอง

    หากเราปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐินี้แล้ว ก็จะทำให้เราทำแต่ความดี เกรงกลัวต่อบาปกรรม เพราะสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้นกุศลธรรมความดีทั้งปวง

สัมมาทิฏฐินี้เป็นธรรมข้อแรกของอริยมรรคมีองค์ 8 คือ

1.สัมมาทิฏฐิ คือ เห็นชอบ
2.สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ
3.สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ
4.สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม
5.สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน
6.สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม
7.สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลออย่างถูกต้อง
8.สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลส นิวรณ์อยู่เป็นปกติ
       ซึ่งอริยมรรคมีองค์ 8  นี้เอง เป็นแนวทางปฏิบัติไปสู่หนทางพระนิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา และเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกๆคน
 
     นั่นคือ ถ้าเราปฏิบัติถูกต้องโดยมีสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้นแล้ว ปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้นไปก็จะทำให้เราเดินตามทางอริยมรรค์ คือ เห็นถูก คิดถูก พูดถุก ทำถูก เลี้ยงชีพถูก ทำความเพียรถูก มีสติที่ถูก และมีสมาธิที่ถูกต้องตรงไปตามหนทางพระนิพพาน และทำให้เราได้บรรลุมรรผลนิพพานในที่สุด

สตีฟ จ็อบส์ ตายแล้วไปไหน ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร Where Is Steve Jobs

      เหมือนดั่งเรื่องราวของคุณสตีฟ จ็อบ ที่ได้เริ่มจากมีกัลยาณมิตร คือพระเถระ (ในชาติที่เกิดภัยธรรมชาติ) ได้สอนให้เข้าใจเรื่องสัมมาทิฏฐิ ให้เห็นถึงเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว ทำให้คุณสตีฟ จ็อบได้ มีควาคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต และชาติต่อๆมาก็ได้ สั่งสมบุญพูดถูกชักชวนคนทำความดี ทำถูกประกอบบุญกุศล ประกอบอาชีพสุจริต ได้พบพระมหาเถระผู้มีฌานสมาบัติ ได้ทำความเพียรถูก มีสติ มีสมาธิ จนมีผลการปฏิบัติได้ดวงสว่างนอกตัว เมื่อละโลกไปมีสุคติสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นที่ไป

      จากเรื่องราวของคุณสตีฟ จ็อบส์ จะเห็นได้ว่า ทุกอย่างของคุณสตีฟ จ็อบที่ประสบความสำเร็จได้ในทุกวันนี้ ก็ล้วนเป็นผลแห่งบุญซึ่งเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฏฐิทั้งสิ้น ส่วนเบื้องหลังของความทุกข์ ความล้มเหลว ความไม่สำเร็จ นั่นก็คือผลของบาปที่คุณสตีฟ จ็อบได้เคยผิดพลาดทำไป 

      ดังนั้นการที่วัดพระธรรมกายสอนเรื่องกฏแห่งกรรม ในกรณีศึกษาของคุณสตีฟ จ็อบส์นั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามตามหลักสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ  ทำให้เข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรม รักบุญ กลัวบาป และสั่งสมแต่ความดียิ่งๆ ขึ้นไป

      การที่ชาวพุทธทั้งหลาย รวมทั้งเพื่อนต่างศาสนาได้ศึกษาเรื่องราวกฏแห่งกรรมนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโลกอย่างมากมาย เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจว่า สิ่งที่ทำไปแล้วมีผล ทั้งทำดี และทำชั่ว ทำให้ชาวโลกเกิดความละอายต่อบาป สั่งสมแต่ความดี พลอยทำให้โลกนี้เกิดแต่สันติสุข และเมื่อชาวโลกได้ศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมมากยิ่งขึ้นแล้ว ก็มีโอกาสได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาควบคู่ไปด้วย ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องสืบไป
 

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กลอนวันแม่ซึ้งๆๆๆๆๆๆๆ


กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
 
บทกลอนโดย ตะวันธรรม
 
กลอนวันแม่ หนูรักแม่ค่ะ
 
กลอนวันแม่ โปรดจำไว้ต้นทางสวรรค์ที่ปรารถนา  อยู่ที่ฝ่าเท้ามารดาเมื่อลูกก้มวันทากราบกราน
 
ต้นทางสวรรค์
 
ทุกคนเสาะหาหนทางสวรรค์   แต่ไม่พบกัน   เพราะมองข้ามไป
ทั้งที่ต้นทางนั้นแสนกว้างใหญ่ และอยู่ไม่ไกล ใกล้ตัวเพียงแค่นิดเดียว เหมือนมีเส้นผมที่มาบังตา
ดังคล้ายขอบฟ้าที่มาขวางกั้น  ให้มองไม่เห็นถึงความคิดเฉิดฉันท์   ต้นทางสวรรค์  อันเรืองรอง…
จงมองด้วยหัวใจที่สดใส  หากเห็นรอยยิ้มผู้ใด…  เป็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนใคร   นั่นแหละคือทางผ่านไปสวรรค์
ท่านเป็นพระ  ในบ้าน  ที่ลูกต่างมองผ่านกัน…  มองผ่านทุกวัน…  จึงไม่เห็นประตูทอง
แม่…คือพระในบ้าน เป็นดอกบัวบานของลูกทุกคน แค่ธุลีความดีของท่านร่วงหล่น พระคุณท่วมท้นล้นจักรวาล
โปรดจำไว้ต้นทางสวรรค์ที่ปรารถนา  อยู่ที่ฝ่าเท้ามารดา…เมื่อลูกก้มวันทากราบกราน

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

World Meditation Day 2012



วันสมาธิโลก World Meditation Day 2555
 
*เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันสมาธิโลก 6 สิงหาคม พุทธศักราช 2548
 
 
วันสมาธิโลก 6 สิงหาคมของทุกปี World Meditation Day
 
6 สิงหาคม เป็นวันสมาธิโลก เพื่อเป็นวันรวมใจของชาวพุทธและชาวโลกทั้งหลายมานั่งสมาธิ
 
     อาจกล่าวได้ว่า ภัยที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษยชาติก็คือ “สงคราม” ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ก่อขึ้นมาเอง และตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของโลกนี้ ก็ยังไม่เคยมียุคใดว่างเว้นจากสงครามอย่างเด็ดขาดได้เลย คำว่า “สันติภาพ” จึงเป็นสิ่งที่ชาวโลกพากันแสวงหามาโดยตลอด
 
     วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ได้มีการนำระเบิดปรมาณูที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ไปปล่อยลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์อันเจ็บปวดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ทำให้ชาวโลกตระหนักถึงภัยอันใหญ่หลวงของสงคราม จึงได้พยายามร่วมมือกันจัดตั้งองค์กรกลางขึ้นมา เพื่อรักษาสันติภาพให้แก่ประชาคมโลกนั่นคือ องค์การสหประชาชาติ
 
     ในการประชุมขององค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ย พ ส ล.) ปี พ.ศ. 2531 ได้เห็นความสำคัญของการทำสมาธิ ทั้งนี้เพราะการทำสมาธิ แม้จะเป็นธรรมปฏิบัติในพระพุทธศาสนา แต่ก็เป็นของสากลที่ศาสนิกชนอื่นก็สามารถปฏิบัติได้ ดังนั้น ย พ ส ล. จึงกำหนดเอาวันที่ 6 สิงหาคม เป็นวันสมาธิโลก เพื่อเป็นวันรวมใจของชาวพุทธและชาวโลกทั้งหลายมานั่งสมาธิ เพื่อให้เป็นมรณะสติเตือนใจ และมุ่งที่จะให้เกิดสันติภาพของโลกที่แท้จริงและยั่งยืน
 
 
วันสมาธิโลก World Meditation Day
 
วันสมาธิโลก World Meditation Day เป็นวันดีที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของพวกเรา
 
     วันนี้เป็นวันดีที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของพวกเราทุกๆ คน ที่เราได้สละเวลาอันมีค่ามาแสวงหาหนทางของพระนิพพาน เราได้วางภารกิจต่างๆ เดินทางมาจากทั่วประเทศ ทั้งที่อยู่ไกลและอยู่ใกล้ บางท่านก็เดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อมาประพฤติปฏิบัติธรรมร่วมกัน มาสร้างสันติสุข สันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลก โดยเฉพาะวันที่ 6 สิงหาคม เป็นวันสมาธิโลก คือ ทั่วโลกนานาชาติ นานาประเทศเขากำหนดเอาว่าวันนี้เป็นวันสมาธิโลก ชาวโลกทุกคนไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดต่างก็รวมกัน เพื่อทำสมาธิให้บังเกิดขึ้นในใจ หรืออาจกล่าวได้ว่าวันนี้เป็นวันสันติภาพของโลก ซึ่งสันติภาพของโลกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มนุษย์ทุกคนในโลกได้เข้าถึงสันติสุขภายใน
 
     สันติสุขภายในที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อใจหยุดนิ่งตั้งมั่นเป็นสมาธิ หยุดนิ่งสนิทอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ดังนั้น การเจริญสมาธิภาวนาจึงเป็นจุดเชื่อมโยงที่จะทำให้เกิดสันติภาพของโลกอย่างแท้จริง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
การเจริญสมาธิภาวนาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
 
     พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ผู้ฉลาดในการเจริญสมาธิภาวนา มีสติตั้งมั่น มีจิตบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว พึงบรรลุนิรามิสสุข เสวยรสแห่งธรรมที่น้อมไปเพื่ออาสวักขยญาณทำให้จิตหลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นก็มีญาณยังรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว ผู้นั้นย่อมถูกต้องญาณอันเป็นเครื่องตรัสรู้อย่างยอดเยี่ยมในอัตภาพนี้
 
     ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้ เพราะว่าการเจริญสมาธิภาวนาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต อาจจะถือว่า เป็นทั้งหมดของชีวิตทีเดียว และเป็นสิ่งที่จะทำให้เราได้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดของชีวิต คือ อายตนนิพพาน
 
     ดังนั้น ผู้รู้ ผู้มีปัญญาทั้งหลายก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต เพื่อการเจริญภาวนา ฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง เพราะรู้คุณค่าของเวลาจึงสงวนเวลาทุกอณุวินาทีเอาไว้สำหรับการฝึกใจ มีสติตั้งมั่นไม่หวั่นไหวไปกับโลกธรรม 8 คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ เพราะสิ่งเล่านี้เป็นธรรมประจำโลกที่บัณฑิตนักปราชญ์เห็นว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดา มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่สาระที่แท้จริงของชีวิต จะมุ่งแสวงหาสาระ หรือของจริงที่มีอยู่ภายใน คือ พระธรรมกาย
 
พระธรรมกายมีอยู่ในตัวทุกคน
 
คุณจะเป็นใคร จะมีความเชื่ออย่างไร นับถือศาสนาอะไรก็ตามล้วนมีธรรมกายทั้งสิ้น
 
     พระธรรมกายมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุก ๆ คนในโลกไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด จะเป็นใครก็แล้วแต่ จะมีความเชื่ออย่างไร นับถือศาสนาอะไรก็ตามล้วนมีธรรมกายทั้งสิ้น เมื่อทุกๆ คน ทุกชาติ ทุกภาษา ฝึกใจให้หยุดนิ่งอย่างถูกวิธีในตำแหน่งที่ถูกต้องคือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหมือน ๆ กัน เมื่อใจหยุดแล้วก็สามารถเข้าถึงพระธรรมกายได้ เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายแล้วความเป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา จะเกิดขึ้น จะเป็นอิสระจากกิเลสอาสวะ เป็นสุขล้วน ๆ มีความสุขได้ด้วยตัวของตัวเอง เป็นนิรามิสสุข คือสุขที่ไม่เจือไปด้วยอามิส ไม่ต้องอาศัยวัตถุสิ่งของภายนอก ซึ่งผู้ที่ฉลาดหรือนักสร้างบารมีต้องแสวงหาความสุขอย่างนี้ แสวงหาความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงธรรม สุขที่เกิดจากใจหยุดใจนิ่ง เพราะความสุขชนิดนี้เยี่ยมกว่าความสุขทั้งหลาย
 
     พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุข สุขอื่นนอกจากใจหยุดนิ่งแล้วไม่มี เป็นรสแห่งความสุข รสแห่งธรรมที่ชนะรสทั้งปวง แล้วยังเป็นวิมุตติสุขที่จะนำไปสู่อายตนนิพพาน เป็นรสแห่งธรรมที่น้อมไปเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะ ความสุขนี้เป็นรากฐานของชีวิต และเป็นสุดยอดแห่งความปรารถนาของมวลมนุษยชาติ ที่เราเกิดกันมาแต่ละภพแต่ละชาตินั้น ก็เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ให้เข้าถึงสิ่งที่คงที่ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้รวมประชุมอยู่ในธรรมกายทั้งหมด
 
พระธรรมกายมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน
 
การเข้าถึงธรรมกายจะทำให้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสดชื่นเบิกบานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
 
     ฉะนั้นการเข้าถึงธรรมกาย จะทำให้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสดชื่นเบิกบานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความคิดคำพูด และการกระทำก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จะเกิดปัญญาบริสุทธิ์สามารถขจัดปัญหาต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไปได้ความบริสุทธิ์ ความผ่องแผ้วของจิตก็จะเกิดขึ้น สิ่งที่เป็นมลทินทั้งหลายก็จะหมดไป มหากรุณาก็จะเกิดขึ้น มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน ปรารถนาให้ทุก ๆ คนในโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย ปรารถนาให้ทุกคนในโลกมีความบริสุทธิ์ ปรารถนาให้ทุกคนในโลกมีความสุข สดชื่น เบิกบานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
 
     เพราะฉะนั้นวันสมาธิโลกของเราวันนี้ หากทุกคนในโลกนำใจมาหยุดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในที่เดียวกันพร้อมๆ กัน และได้เข้าถึงพระธรรมกายที่เป็นนิจจัง สุขัง อัตตาแล้วสันติสุขที่แท้จริง สันติภาพที่แท้จริงของโลกก็จะบังเกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เหลือวิสัย ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน แต่ว่าสิ่งที่เป็นไปได้ ถ้าทุกคนรู้ว่า เรามีของดีอยู่ในตัว และเริ่มต้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง คือฐานที่ 7 แล้วก็ลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงจัง ทำอย่างต่อเนื่องให้ถูกวิธี ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันอย่างนี้ทั้งโลก โลกก็จะพลิกจากมืดมาสว่าง จากที่เป็นมลทินก็มาเป็นความบริสุทธิ์ จากความเห็นแก่ตัวก็จะมาเป็นการแบ่งปัน มีความรัก มีรอยยิ้มให้กัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน ความคิดเบียดเบียนผูกโกรธ พยาบาทก็จะหมดสิ้นไป ตรงกันข้ามจะมีแต่ความเมตตา ปรารถนาดี มีการให้อภัย เสียสละ แบ่งปันซึ่งกันและกัน มีแต่ความบริสุทธิ์ มีแต่ความสุขเป็นโลกแห่งสันติสุขที่ใคร ๆ ก็ปรารถนากันมายาวนาน
 
 
วันสมาธิโลก World Meditation Day มีพิธีมุฑิตาเปรียญธรรม 9 ประโยค
 
    
 

ตักบาตรดอกไม้ 2555


ตักบาตรดอกไม้ พระ 3,000 รูป

 ในวันพุธที่ 1 สิงหาคม 2555
เวลา 06.00 - 8.00  น.

ณ บริเวณถนนสายคู่
หน้าพระมณฑปฯ วัดพระพุทธบาท สระบุรี
ตักบาตรดอกไม้ พระ 3,000 รูป
ตักบาตรดอกไม้ พระ 3,000 รูป 
 
           ตักบาตรพระ 3,000 รูป ดอกไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อความสงบร่มเย็นและเป็นสิริมงคลแก่แผ่นดินไทยถวายเป็นพุทธบูชาและช่วยเหลือคระสงฆ์ 286 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 06.00 น. ณ บริเวณถนนสายคู่ หน้าพระมณฑปฯ วัดพระพุทธบาท สระบุรี    
   
ตักบาตรพระถวายเป็นพุทธบูชา รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ
 
ตักบาตรพระถวายเป็นพุทธบูชา รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ
 
อานิสงส์ของการตักบาตรพระ
 
    1. เกิดในร่มเงาบวชพระพุทธศาสนาไปทุกภพทุกชาติ
    2. ย่อมเจริญด้วยโภคทรัพย์สมบัติเป็นอันมาก
    3. ทรัพย์สมบัติคงทนถาวร ไม่วิบัติด้วยภัยใดๆ
    4. ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ที่ชอบใจของคนหมูมาก
    5. คนดีเป็นอันมาก ย่อมคบหาผู้ให้ทาน
    6. ชื่อเสียงอันดีงามของผู้ให้ ย่อมฟุ้งขจรไป
    7. ผู้ให้ย่อมแกล้วกล้าอาจหาญ ไม่เก้อเขินในที่ประชุม
    8. เมื่อสิ้นอายุขัย ย่อมเกิดในสุคติโลกสวรรค์
    9. บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย
  
  
การตักบาตรคือประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
 
การตักบาตรคือประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล 
 
ข้อปฏิบัติที่ดีงามในการตักบาตร
 
- แต่งการด้วยชุดขาว หรือเสื้อขาวเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
- อาหารใส่บาตรควารเป็นอาหารแห้ง
- ข้าวสารควรบรรจุถุงให้เรียบร้อย
- งดใส่ น้ำดื่มชนิดแก้วพลาสติก
- งดใส่ปัจจัยลงในบาตรท่านสามารถบริจาคได้ที่จุดรับบริจาค หรือต้นผ้าป่าที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล
- รักษาใจให้ ผ่องใส น้อมถวายไทยธรรมเป็นสังฆทาน
- ใส่บาตรด้วยความเคารพ ด้วยการนั่งใส่บาตรโดยให้แถวหน้าใส่ให้เสร็จก่อน
         
สอบถามเพิ่มเติม :  02-831-1000
 
ร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ครั้งประวัติศาสตร์ 
 
ร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ครั้งประวัติศาสตร์
        
การตักบาตรเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติ
 
การตักบาตรเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติ 
 
การตักบาตรคือประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธ
 
การตักบาตรคือประเพณีอย่างหนึ่งของชาวพุทธ
 
ตักบาตรพระ3,000 รูป 
 
ตักบาตรพระ3,000 รูป 
 
รับชมภาพงานตักบาตรดอกไม้ในปี 2553 ได้ที่ ตักบาตรดอกไม้
 
 
บทความที่เกี่ยวกับตักบาตรพระ
 

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิสาขบูชา วันประกาศชัยชนะ พระอนันตชิน


วันตรัสรู้ธรรม

ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา 

ในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ พระจอมมุนีนาถ หลังจากได้บำเพ็ญเพียรมายาวนานถึง ๖ ปี ภายใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ในวันนั้น พระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงนั่งคู้อปราชิตบัลลังก์ ซึ่งแม้สายฟ้าจะผ่าลงตั้ง ๑๐๐ ครั้งก็ไม่แตกทำลาย โดยทรงอธิษฐาน 


" แม้เลือดและเนื้อในกาย จักแห้งเหือดเหลือแต่หนัง เอ็น กระดูกก็ตาม ตราบใดที่เรายังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ได้รู้ ได้เห็นธรรมอันยิ่งแล้ว จักไม่ยอมลุกจากบัลลังก์นี้เป็นอันขาด จักนั่งอบรมกาย วาจา ใจ ให้ละเอียดถึงที่สุดให้ได้ "


ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา


พระมหาบุรุษทรงพิจารณาปัจจยาการอันประกอบด้วยองค์ ๑๒ โดยอนุโลมและปฏิโลม หมื่นโลกธาตุหวั่นไหว ๑๒ ครั้ง จนจรดน้ำรองแผ่นดินเป็นที่สุดพระมหาบุรุษได้ทรงบรรลุสัพพัญญุตญาณ ในเวลาอรุณขึ้น...

...เมื่อพระมหาบุรุษทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว โลกันตนรกกว้าง ๕๐๐ โยชน์ในระหว่างจักรวาลทั้งหลาย ไม่เคยสว่างด้วยแสงพระอาทิตย์ ๗ ดวง ก็ได้มีแสงสว่างไสวเป็นอันเดียวกัน มหาสมุทรลึก ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ได้กลายเป็นน้ำหวาน แม่น้ำทั้งหลายหยุดไหล คนบอดแต่กำเนิดก็มองเห็นรูป คนหนวกแต่กำเนิดก็กลับได้ยินเสียง คนง่อยเปลี้ยแต่กำเนิดก็เดินได้ กรรมกรณ์ทั้งหลายมีเครื่องจองจำเป็นต้น ได้ขาดหลุดไป !! พระมหาบุรุษได้รับการบูชาจากเหล่าทวยเทพด้วยสมบัติอันประกอบด้วยสิริหาปริมาณมิได้ ทรงเปล่งอุทานว่า



" เราเมื่อแสวงหานายช่างคือตัณหา ผู้กระทำเรือน เมื่อไม่ประสบ ได้ท่องเที่ยวไปยังสงสารมิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ ดูก่อนนายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักทำเรือนไม่ได้อีกต่อไป ซี่โครงทั้งปวงของท่าน เราหักแล้ว ยอดเรือนเรากำจัดแล้ว จิตของเราถึงวิสังขาร คือนิพพานแล้ว เราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้ว "

เมื่อตรัสรู้แล้ว ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเปี่ยมล้น อบรมพร่ำสอนชาวโลกให้ได้รู้และเห็นธรรมตามไปด้วย ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ๔๕ พรรษา พระพุทธองค์ต้องทรงดำเนินด้วยพระบาทเปล่า เสด็จจาริกไปเผยแผ่พระศาสนาตามดินแดนต่างๆ อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทำให้มีสรรพสัตว์ได้บรรลุธรรมาภิสมัยเป็นอริยบุคคลมากมายนับไม่ถ้วน จากนั้นจึงเสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา

วิสาขบูชา สร้างบุญญา ฉลองพุทธชยันตี




วิสาขบูชา 
นั่งสมาธิบูชาข้าวพระ เสริมสร้างหลังคาสภาฯ 
บูชาอัฐิธาตุคุณยายฯ อุปสมบทอุทิศชีวิต เวียนประทักษิณรอบพระอุโบสถ
ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรม




วันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลโลก Vesak Day 

ภาคเช้า : ก็จะมีพิธีตักบาตรพระ บริเวณทางเข้า 5 สภาธรรมกายสากล  
ภาคสาย : ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ณ สภาธรรมกายสากล,
พิธีบูชาข้าวพระ, พิธีถวายกองทุนเสริมสร้างหลังคาสภาธรรมกายสากล, และพิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน
ภาคบ่าย 
เวลา 13.30 – 14.45 น.   ปฏิบัติธรรม,  พิธีสักการะมหารัตนอัฐิธาตุคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ณ ห้องแก้วสารพัดนึก
เวลา 14.30-15.30 พิธีอุปสมบทอุทิศชีวิตของสามเณรเปรียญธรรม จำนวน 12 รูป  ณ  อุโบสถวัดพระธรรมกาย(ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทาง DMC มาที่สภาธรรมกายสากล ให้ผู้มีบุญทุกคนได้ร่วมอนุโมทนาบุญ)
เวลา 15.30 น.  เริ่มเคลื่อนขบวนอัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุคุณยายอาจารย์ฯ ไปประดิษฐานที่มหาวิหารคุณยายฯ
ภาคเย็น
เวลา 17.30 น.-18.30 น.  พิธีประดิษฐานมหารัตนอัฐิธาตุคุณยายอาจารย์ฯ  ณ  มหาวิหารคุณยายฯ
ภาคค่ำ : เวลา 19.00 น.- 20.00 น.  พิธีจุดวิสาขประทีป และเวียนประทักษิณรอบอุโบสถวัดพระธรรมกาย

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิสาขบูชา วันสำคัญสากลโลก


วันวิสาขบูชา เหตุใดจึงเป็นวันสำคัญสากลของโลก
 
วันวิสาขบูชา(vesak day)
วันวิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลของโลก
 
     วันวิสาขบูชา องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 54 ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ 174 International recognition of the Day of Visak  ระบุว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่งของโลก ที่ได้หล่อหลอมจิตวิญญาณของมนุษยชาติมานาน ควรที่จะยกย่องกันทั่วโลก จึงประกาศให้วันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนพฤษภาคม เป็นวันสำคัญสากลนานาชาติ (International Day)
 
 
สหประชาชาตืตั้งวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก
สหประชาชาติตั้งวันวิสาขบูชา Vesak Day เป็นวันสำคัญสากลของโลก 
 
     โดยการเสนอของประเทศศรีลังกา และมีมติเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมสมัชชาครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยไม่คิดค่าตอบแทน ในการพิจารณาประธานสมัชชาฯ ครั้งนั้นได้เชิญผู้แทนจากประเทศศรีลังกาขึ้นกล่าวนำเสนอร่างข้อมติ และเชิญผู้แทนไทย พม่า สิงคโปร์ บังคลาเทศ ภูฐาน เนปาล ปากีสถาน อินเดีย สเปนขึ้นกล่าวถ้อยแถลง สรุปความได้ว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรมต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของสหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติอีกด้วย
 
วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลโลก
วันวิสาขบูชาหรือ Vesak Day เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
     วันวิสาขชบูชาคำว่า “วิสาขะ”นั้น เป็นภาษาบาลีแปลว่า เดือน  6 ส่วนในภาษาสันสกฤตเรียกว่า “ ไวศาขะ”  พระพุทธศาสนาในประเทศไทยเรียกเป็นภาษาบาลีว่า วิสาขะ  วิสาขบูชาคือการบูชาในเดือน 6 ศรีลังกาเรียกว่า วีสัค หรือ เวสัค (Vesak) จนกลายเป็นชื่อภาษาอังกฤษติดปากว่า Vesak หรือ Vesak Day อีกทั้งองค์การสหประชาติประกาศยอมรับวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก โดยใช้คำแทนวันวิสาขบูชาว่า Vesak ตามชาวศรีลังกา
 
พิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา
จุดวิสาขประทีปเพื่อทำการเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา Vesak Day
 
     ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ แถบเอเชียอาคเนย์จะจัดฉลองในวันวิสาขบูชาหรือวันเพ็ญกลางเดือน 6 คือ เดือนวิสาขะ แต่ในประเทศอื่นที่เป็นนิกายมหายาน เช่น ญี่ปุ่น จะไม่ฉลองวันวิสาขบูชาในเดือน 6  เพราะวันวิสาขบูชาของนิกายมหายานตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน 8 ประเทศญี่ปุ่นกำหนดวันวิสาขบูชาตรงกับวันที่ 8 เมษายนของทุกปีปฏิทินสุริยคติ บางนิกายในบางประเทศไม่ได้กำหนดวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าในวันเดียวกัน ประเทศที่นับถือมหายานถือว่าพระพุทธเจ้าประสูติวันหนึ่ง ตรัสรู้วันหนึ่ง และปรินิพพานอีกวันหนึ่ง เช่นประสูติวันที่ 8 เมษายน ตรัสรู้วันที่ 8ธันวาคม และปรินิพพานวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เราจึงเห็นได้ว่าในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนามหายาน จะถือเอาวันสำคัญที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าแตกต่างกันออกไป
 
เวียนเทียนในวันวิสาขบูชา
พิธีเวียนเทียนรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ในวันวิสาขบูชา ณ วัดพระธรรมกาย
 
     การที่องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดวันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน 6 จึงเป็นการกำหนดตามแบบพระพุทธศาสนาเถรวาท และในภาษาของสหประชาชาติจึงไม่เรียกวันเพ็ญกลางเดือน 6 เพราะเดือน 6 เป็นจันทรคติ สหประชาชาติ ใช้คำว่า วันเพ็ญเดือนพฤษภาคม ดังนั้น ถ้าวันเพ็ญกลางเดือนตรงกับวันใดในเดือนพฤษภาคม สหประชาชาติถือว่าวันนั้นเป็นวันวิสาขบูชา